กฐินวัดไผ่ล้อม ทำบุญรับเหรียญครุฑ 1 บาท ของเดิมหลวงพ่อพูล

เจริญพรญาติโยมผู้อ่านทุกท่าน ถ้าเราย้อนกลับไปในอดีต สมัยที่มีนายพรานนักหาของป่าเดินเพ่นพ่านเต็มป่าดง กะว่าจะออกล่าเหยื่อหากิน เก็บของป่าไปค้าขาย คนพวกนี้มักจะหาเครื่องราวของขลังไว้ป้องกันตัวกัน เพราะเป็นที่รู้กันว่าในป่าในดงมีอะไรซ่อนอยู่ นอกเหนือไปจากสัตว์ร้ายแล้วก็ยังมีภูตผีปีศาจอะไรที่มองไม่เห็นแต่รู้ว่ามี บางคนโชคไม่ดี ชะตาไม่แข็ง ก็ถูกหลอนหลอนจนหัวโกร๋น นักท่องไพรทั้งหลายจึงต้องมีของดีของเด็ดพกติดตัวไว้กันของที่ว่านี้เพื่อความปลอดภัย ไปมั่นใจ กลับปลอดภัย สบายใจทุกครั้ง

หนึ่งในของดีของเด็ดที่นักท่องไพรนิยมใช้ เป็นของสามัญธรรมดาในช่วงหลังปี 2517 นี่เอง ก็คือเหรียญบาท สมัยนั้นก็คงมีค่ามากกว่าเหรียญบาทในปัจจุบัน แต่ก็นับว่าเป็นของสามัญธรรมดาอยู่ดี พกติดตัวไว้ ห้อยคอไว้อย่างวัตถุมงคลองค์หนึ่งโดยที่ไม่ต้องไปให้หลวงพ่อหรืออาจารย์ไหนปลุกเสก เหรียญบาทธรรมดานี่แหละ ใช้ได้เลย ห้อยคอ เหน็บไว้นี่แหละ

ความพิเศษของเหรียญบาทในตอนนั้นก็คือ เป็นเหรียญโลหะผสม ทองแดง 75% นิกเกิล 25% ต่างจากเหรียญบาทสมัยหลังที่เป็นเหล็กชุบนิกเกิล หน้าก้อยนั้นเป็นรูปพญาครุฑกางปีกกางเท้าขึ้น ราวกับว่ากำลังโฉบจับเหยื่ออยู่ ดูทรงพลังอำนาจ และที่สำคัญคือ เหรียญบาทที่ว่านี้ต้องเป็นรุ่นที่ผลิตในปี 2517 เท่านั้น จึงจะมีพลังตามธรรมชาติที่ไม่ต้องปลุกเสกที่ใดแต่ด้วยปัจจัยต่าง ๆ อันมาประกอบเข้ากันเป็นเหรียญนี้เอง โดยผู้รู้บอกว่า ที่เหรียญบาท 2517 มีพลัง เพราะว่าเหรียญเดียวมีองค์ประกอบครบทั้งสี่ธาตุ ดิน น้ำ ลม ไฟ มีรูปพญาครุฑอันเป็นสัตว์ศักดิ์สิทธิ์ที่มีพละกำลังมาก บินผ่านนทีสีทันดรก็ได้ดังประสงค์ และเป็นพาหนะของพระนารายณ์เป็นเจ้า  

เหรียญนี้ก็กลายเป็นที่นิยมตั้งแต่พรานป่านักท่องไพรไปจนถึงชาวบ้านชาวเมือง จนภาครัฐเปลี่ยนรุ่นเปลี่ยนแบบเหรียญบาทไปแล้ว แต่คนที่ศรัทธาก็ยังเก็บเหรียญบาท 2517 นี้เอาไว้บูชา พกติดตัว เพื่อความแคล้วคลาดปลอดภัยจากสิ่งอัปมงคล จนเวลาผ่านไปเหรียญบาทรุ่นนี้ก็ยิ่งหายาก เพราะเหรียญบาทรุ่นเก่า ๆ จะค่อย ๆ ถูกเรียกเก็บไปจากท้องตลาดจนหมดไป เหมือนธนบัตรแบบเก่า ๆ วันหนึ่งมันก็หายไปแบบไม่รู้ตัว เพราะแบงก์ชาติหรือธนารักษ์ค่อย ๆ เก็บและเติมรุ่นใหม่เข้าไปแทน ของเก่าเลยกลายเป็นของหายากขึ้นมา และกลายเป็นเป้าหมายของนักสะสม โดยเฉพาะถ้าธนบัตรหรือเหรียญนั้นมีความพิเศษบางอย่าง เช่น ตำหนิ ระยะใช้งานน้อย มีลายเซ็นน่าสนใจ ออกในโอกาสพิเศษ และเหรียญบาท 2517 ก็เป็นหนึ่งในนั้น โดยลักษณะอาจไม่ได้พิเศษ แต่มีมูลค่าด้วยอานุภาพของเหรียญที่ทุกวันนี้ก็ยังคงถือกันว่าศักดิ์สิทธิ์ มีพกไว้อุ่นใจปลอดภัยจากสิ่งอัปมงคล เสนียดจัญไรทั้งปวง ราคาจะเท่าไรก็มีคนหาซื้อ

ฉะนั้น ใครจะไปรู้ เหรียญหรือธนบัตรบางอย่างที่เราใช้ ๆ กันอยู่ บางอย่างก็อาจจะมีค่าในอนาคตก็ได้

พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูล อตฺตรกฺโข ท่านก็เก็บเหรียญชนิดนี้ไว้หลายเหรียญ ราวกับว่าท่านเห็นมูลค่าในภายหน้า จนเวลาผ่านไป 50 ปี ปีนี้ พ.ศ.2567 หลวงพ่อพูลเก็บเหรียญนี้ไว้แล้ว 50 ปี ก็เป็นเวลาอันควรที่จะได้นำออกมาแจกจ่ายเป็นที่ระลึกโดยเลือกโอกาสอันเป็นมงคล คือ งานกฐินสามัคคี ประจำปี 2567 วันอาทิตย์ที่ 20 ตุลาคม 2567 เวลา 15.00 น. ซึ่งสำหรับท่านที่ร่วมเป็นเจ้าภาพกฐินสามัคคีโดยร่วมบุญเป็นเจ้าภาพกองกฐินที่กำหนดกันไว้เป็นจำนวนกองละ 1,999 บาท จะได้รับของที่ระลึก คือ เหรียญบาท พ.ศ.2517

ซึ่งเป็นเหรียญที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อพูลท่านสะสมไว้ตั้งแต่เมื่อ 50 ปีก่อน ทางวัดได้นำมาตอกลายลงอักขระเพิ่มเติม เสริมความเป็นสิริมงคลโดยเฉพาะ เลี่ยมกรอบพร้อมนำไปบูชาได้ในทันที จึงถือว่าเป็นวัตถุมงคลพิเศษซึ่งหายากในตัวอยู่แล้ว และยิ่งเป็นของดีที่หลวงพ่อพูลท่านเคยเก็บรักษาไว้ก็นับได้ว่ายิ่งดีเป็นสิริมงคลอยู่หลายชั้น ฉะนั้นอันนี้ก็จะเป็นสิ่งที่ทางวัดไผ่ล้อมขอร่วมอนุโมทนาแก่ผู้ที่เป็นเจ้าภาพกองกฐินดังกล่าวนี้ สำหรับท่านที่ประสงค์จะเป็นเจ้าภาพกองกฐินสามารถสอบถามกับทางเจ้าหน้าที่วัดได้ ขอเจริญพร